แก้ว
แก้ว
ชื่อพื้นเมือง : ตะไหลแก้ว, แก้วพริก, จ๊าพริก, แก้วลาย,
แก้วขี้ไก่, เขี้ยวขี้ควาย, แก้วทอง, แก้วขาว
ชื่อสามัญ : Orang Jessamine, China Box Tree,
Andaman Satinwood
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murraya paniculata (Linn.) Jack
ชื่อวงศ์ : Rutaceae
ด้านนิเวศวิทยา
เป็นพรรณไม่ของป่าดิบแล้ง
ขึ้นกระจายทั่วทุกภาคจากที่ราบสูงถึงที่สูงจากระดับน้ำทะเล 400 เมตร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น
ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก
สูงได้ถึง 10 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม
เปลือกต้น สีขาว
เทา แตกเป็นร่องตามยาว
ใบ
เทา แตกเป็นร่องตามยาว
ใบ
ประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ
มีใบย่อย 5-9 ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่
สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม
โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ใบมีต่อมน้ำมัน
ดอก
ดอก
ช่อดอกสั้น
ออกตามง่ามใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม
กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2
ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน
รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม.
ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร
ฝัก/ผล
ฝัก/ผล
รูปรีหรือรูปไข่
กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม ต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด
เมล็ด
เมล็ด
รูปไข่
มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด
ด้านสรรพคุณ
ใบ
ปรุงเป็นยาขับระดูที่เรียกว่ายาประสะใบแก้ว และใช้เป็นยาระบายลม แก้จุกเสียแน่นเฟ้อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น